EXPLORATIONS
เริ่มต้นจากการค้นคว้าบทเพลงและโมทีฟในในแต่ละยุคสมัยและชนชาติว่ามีความเหมือนหรือความต่างอย่างไรบ้าง รวมไปถึงการตั้งเหตุผลว่าเราเลือกบทเพลงนี้เพราะเหตุใด ซึ่งคำตอบคือเพราะมีความแตกต่างอย่างเด่นชัดทั้งในด้านดนตรีและศิลปะ จึงก่อเกิดหัวข้อโมทีฟนี้จากความสนใจในด้านลวดลายที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวันแล้ว ตัวเรามองว่ายังสามารถเข้าไปถึงอารมณ์ของเพลงได้อีกด้วย
สิ่งที่ท้าทายในการทำโปรเจ็กต์ครั้งนี้คือเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักศึกษาสายดนตรีและนักศึกษาสายออกแบบกราฟฟิกที่ไม่ได้มีความรู้ในด้านดนตรีมากนัก การทำงานเพื่อให้ก่อเกิดความเข้าใจและสื่อสารไปในทางเดียวกันได้นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นขั้นตอนการวิเคราะห์แยกส่วนบทเพลงจึงเป็นขั้นตอนที่ต้องทำอย่างละเอียดเพราะต่างฝ่ายต่างมีความรู้เฉพาะด้าน ขั้นตอนนี้จึงต้องแยกว่าในแต่ละช่วงนั้นควรมีโมทีฟแบบไหน สีสันแบบไหน อยากให้มีการเคลื่อนไหวหรือไม่ เพราะเหตุใด
เมื่อจัดแจงกราฟฟิกที่ร่วมกันออกแบบเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มลงมือวาดรูปโดยแบ่งหน้าที่ออกเป็นคนออกแบบและคนวาดเนื่องจากพวกเรานั้นมีความถนัดที่ต่างกัน จึงให้เพื่อนฝ่ายออกแบบวาดเบสและจัดเลย์เอาท์มาก่อน จากนั้นจึงค่อยส่งต่อให้เราลงรายละเอียดต่อเนื่องจากตัวเรานั้นถนัดในการลงดีเทลมากกว่า ซึ่งดีเทลและลวดลายต่างๆนั้นอ้างอิงจากโมทีฟที่ได้จากการค้นคว้า ก่อนจะเพิ่มสีสันและจัดวางตามความชอบ สร้างสรรค์จากการได้รับแรงบันดาลใจของบทเพลง
องค์ประกอบของโมทีฟทั้งสองนั้นมาจากพืชและดอกไม้เนื่องจากเป็นธรรมชาติซึ่งเป็น element ที่พบเห็นได้ทั่วไปในลวดลายโมทีฟ หากจะต่างก็คงเป็นที่พันธ์ุไม้ที่เป็นที่นิยมในยุคนั้นหรือเป็นของขึ้นชื่อเฉพาะที่ แต่สิ่งที่เหมือนกันระหว่างโมทีฟบาโรกและโมทีฟสเปนนั้นคือการเลือกใช้สีที่ค่อนข้างตัดกันในการตกแต่งเพื่อให้เกิดความโดดเด่น คมชัด และไม่กลืนกันจนเกินไป ดังนั้นการลงสีเองจึงไม่มีการเบลอหรือใช้เทคนิค gradient
รูปด้านซ้ายเป็นรูปเบสที่ฝ่ายออกแบบวาดมาให้ ก่อนจะส่งต่อให้เราลงดีเทลต่อจนออกมาเป็นแบบรูปขวา
ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากได้สร้างกราฟฟิกโมทีฟเสร็จคือการนำมาจัดลงโปรแกรมสำหรับการฉาย projection ในฮอลการแสดงอีกที โดยจัดวางตามแบบที่เคยวางแผนไว้ ซึ่งป็นขั้นตอนที่ไม่ได้ยากและวุ่นวายเพียงแต่ควรที่จะเตรียมไว้ให้ดี โดยการกำกับใส่คิวลงบนโน้ตสกอร์เพื่อให้ผู้รับหน้าที่ในการฉายภาพเข้าใจและฉายได้ตามที่เราต้องการ เพราะตัวดนตรีนั้นมีมู้ดและสีสันเคลื่นไหวอยู่เสมอ หากต้องการที่จะให้ภาพที่ได้วาดฝันไว้ไหลไปพร้อมกับเสียง จังหวะในการฉายภาพเองก็สำคัญไม่ต่างกัน
BAROQUE MOTIFS
โมทีฟของบาโรกนั้นมีไอเดียหลักคือความดราม่า ดังนั้นเราจึงหยิบใช้ใช้เทคนิคของการวาดเส้นหมึก เน้นการสานเส้นให้เห็นมิติ มีความลึกตื้น เส้นสีดำมีความคมเข้มอย่างเด่นชัด จุดที่ท้าทายของการวาดโมทีฟนี้คือการตวัดเส้นและสานเส้นโค้ง เพราะหากเส้นไม่โค้งตามการเคลื่อนไหวของใบไม้จะทำให้ดูไม่ไหลลื่นและดูขัดอารมณ์ความรู้สึกอีกด้วย
ในส่วนของสีนั้นเลือกใช้สีดำและสีเหลืองซึ่งอ้างอิงมาจากเทคนิค Chiaroscuro ซึ่งเป็นเทคนิคโดยการใช้แสงและความมืดตัดกันเพื่อให้เห็นถึงความดราม่าในศิลปะ
SPANISH MOTIFS
โมทีฟสเปนนั้นต่างจากบาโรกอย่างชัดเจนคือไปในทางสองมิติมากกกว่า เน้นสีสันและดีเทลที่ละลานตา เทคนิคการวาดเส้นของโมทีฟนี้ส่วนมากจะใช้เทคนิคพื้นฐานของการวาดเส้นเช่นการขีดเส้นโค้ง เส้นตรงง่ายๆ แต่เน้นในปริมาณให้มีจำนวนมากเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างและดูรก เพิ่มดีเทลยิบย่อยเป็นเส้นสีและจุดเล็กๆเพื่อเพิ่มสีสัน
ในเรื่องของสีนั้นใช้สีที่ค่อนข้างตัดกันหากโมทีฟมีสีเดียวกันมากเกินไปก็ใช้สีที่เข้มหรืออ่อนกว่าหลายเฉดมาวาดขอบเพื่อเพิ่มความโดดเด่น ตัวอย่างเช่นตัวโมทีฟประกอบด้วยสีแดงเป็นส่วนมาก เราจึงใช้สีดำเป็นเส้นขอบและระบายสีเหลืองบางจุดเพื่อไม่ให้เกิดความกลืนของสี