top of page

BAROQUE & ROCOCO DETAILS

          บาโรก(Baroque) เป็นคำที่แสดงถึงศิลปะตะวันตกที่มีระยะเวลายาวนานตั้งแต่ปลายศตวรรษที่16 จนถึงกลางศตวรรษที่18  โดยโรโกโก(Rococo) นั้นต่อยอดมากจากศิลปะบาโรก มีการพัฒนามาจากฝรั่งเศสในช่วงต้นศตวรรษที่18 และถูกเรียกว่าศิลปะแบบหลุยส์ที่15เนื่องจากศิลปะมีลักษณะพบเห็นได้ในช่วงเวลานั้น ซึ่งศิลปะโรโกโกนั้นมีอิทธิพลต่อสังคมในช่วงเวลานั้นมาก การตกแต่งภายในถูกครอบคลุมด้วยโรโกโกเป็นหนึ่งเดียวไม่ว่าจะเป็นลวดลายผนัง เครื่องเรือน ลายผ้า พรม รูปปั้น 

          คำว่า  Baroque ในภาษาอังกฤษนั้นมีความหมายว่า แปลกพิสดาร  ซึ่งมีที่มาจากเป็นศัพท์ชาวโปรตุเกสที่ขายเพชรพลอยไว้เรียกไข่มุกที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวไม่เป็นธรรมชาติ  ลักษณะของศิลปะบาโรกนั้น หรูหรา โอ่อ่า และอุดมสมบูรณ์ และ  Rococo นั้นมาจาก rocaille ภาษาฝรั่งเศสคือศิลปะการตกแต่งที่ใช้ลวดลายหอย และ barocco ภาษาอิตาลีมีความหมายว่าศิลปะบาโรก ศิลปะโรโกโกนั้นนิยมใช้ลูกเล่นเส้นโค้งของเปลือกหอยและม้วนตัวของใบไม้เป็นหลัก

Baroque

          มีลักษณะการปรับดับประดาที่อิสระและแกะสลักให้เห็นถึงความดราม่า โดยบาโรกสไตล์นั้นแผ่ความถึงวิถีชีวิต สวนดอกไม้ สถาปัตยกรรม ดนตรี และศิลปะ

          สถาปัตยกรรมของบาโรกนั้นให้ความสำคัญกับความชัดเจน เสา โดม ใช้สีเล่นแสงเงาแบบภาพวาด เล่นน้ำหนักกับช่องว่าง

          ในส่วนของเครื่องเรือนนั้นมีลักษณะที่โดดเด่นด้วยความหรูหราและแพง มีการตกแต่งด้วยลักษณะที่ละเอียด ซับซ้อน หนา เกินจริง โดยมีองค์ประกอบของดอกไม้ ใบไม้ และทูตสวรรค์(cherubs)เป็นหลัก รายละเอียดของเครื่อเรือนนั้นมีรายละเอียดที่สูงและประดับมากจนล้น ใส่จนให้ดูว่ายิ่งใหญ่และฟุ่มเฟือยเกินคำว่าสมมาตร ในการตกแต่งภายในเองก็หรูหราไม่แพ้กัน ใช้ผ้ากำมะหยี่และผ้าทอยกดอก(damask)นำมาใช้กับเบาะเครื่องเรือน กรอบหรือขอบภายในบ้านเรือนมีการตกแต่งด้วยการเคลือบไม้ด้วยสีทอง มีการใช้เครื่องไม้ประดับ(Marquetry) ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นที่นิยมจนถึงค.ศ.1725

          เครื่องเรือนบาโรกนั้นมีลักษณะที่สำคัญอยู่ 5 อย่าง

  1. Foliage motifs : สไตล์บาโรกนั้นคำนึงถึงพืชเป็นหลัก ดังนั้นการประดับประดาจะไม่พ้นการม้นตัวของใบไม้หรือดอกไม้ที่เกาะเป็นก้อนเป็นมาลัย

  2. Marquetry : เครื่องเรือนจะมีเนื้อผิวสัมผัสและสีที่ต่างกันด้วยการประกอบของแผ่นไม้ที่บางเบา(veneers) ซึ่งการผลิตเครื่องเรือนนั้นได้รับอิทธิพลมาจากช่างประดิษฐ์ไม้ชาวฝรั่งเศสและชาวดัทช์

  3. Putti : มาจากภาษาอิตาลีมีความหมายคือเด็กผู้ชายหรือทูตสวรรค์ในร่างเด็กทารก(cherubs) ซึ่งเป็นที่นิยมในการตกแต่งแบบบาโรก

  4. Crest and initials : เป็นการแสดงถึงสัญลักษณ์เฉพาะซึ่งมักประดับในเครื่องเรือนบาโรก เช่น สัญลักษณ์ประจำตระกูล

  5. Lambrequin motif : แลมบ์เรอควินคือผืนผ้าขนาดเล็กที่ไว้ตกแต่งหิ้งหรือม่านสั้นๆที่มีไว้ตกแต่งเหนือหน้าต่างหรือประตู ซึ่งลวดลายนั้นมีความโดดเด่น แพงและหรูหรตามสไตล์บาโรก ลวดลาย แลมบ์เรอควิน และพู่ตามขอบผ้าจึงเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในการตกแต่งภายในของบาโรก

Baroque Louis XIV

          ฝรั่งเศสเป็นดินแดนหลักที่รับสไตล์บาโรกในช่วงท้ายของยุเรอเนสซองค์ เป็นช่วงที่หลุยส์ที่14ครองราชย์ ทำให้กำเนิดสไตล์ที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ฝรั่งเศสได้สร้างสไตล์ที่สวยงามและโดดเด่น ในสมัยนั้นนักออกแบบและช่างไม้ เครื่องเรือนเป็นอาชีพที่รุ่งเรือง ยกตัวอย่างบุคคลมีชื่อในช่วงเวลานั้นคือ Andre Charles Boulle ศิลปินช่างทำเครื่องเรือนของหลุยส์ที่14นั้นได้สร้างเครื่องเรือนไม้ที่มีการใช้ศิลปะ inlay หรือ marquetry ใช้ไม้ ebony ประดับด้วยกระดองเต่า ทองเหลือง และวัสดุอื่นๆในการตกแต่ง ศิลปะเครื่องเรือนของ boulle เป็นที่ยอมรับและมีอิทธิพลมากจนเป็นที่เรียกในชื่อของ Baroque Louis XIV

Louis XIV.jpg

Baroque Furniture

          เดิมเครื่องเรือนในยุคบาโรกนั้นจะมีลักษณะขาเป็นแท่นเสาทรงอวบกลม(turned feet)หรือขาเตี้ย(pedestal feet)เป็นหลักก่อนจะมีแบบโค้งในภายหลัง เป็นยุคที่โต๊ะทรงผืนผ้าทรงกลมขนาดเล็กเป็นที่ยอมรับ  หีบ ตู้ ชั้นวาง และภาชนะไม้ที่มีการตกแต่ง inlay เองก็เป็นที่นิยมอย่างมาก  เหล่าช่างทำเครื่องเรือนที่มีฐานะและมีอิทธิพลมักจะใช้ ไม้oak, walnut, chestnut และมะเกลือ(ebony) ตกแต่งและประดับด้วยไม้ rosewood, sandalwood, tulipwood รวมไปถึงไม้จากต่างถิ่น

          เครื่องเรือนบาโรกนั้นย่อมมีลักษณะที่โดดเด่น หากขาเครื่องเรือนมีลักษณะโค้งนั่นหมายความว่าเครื่องเรือนนั้นแสดงให้เห็นถึงมาตรฐานที่สูง สินค้าแฮนเมดจำนวนมากนำเข้ามาจากอิตาลีซึ่งเป็นดินแดนที่มีไม้เนื้อดี  เบาะจะถูกหุ้มด้วยหากไม่เป็นผ้าก็เป็นผ้าหนังแต่ส่วนที่เป็นไม้นั้นจะมีความเป็นเอกลักษณ์ในแบบบาโรกอยู่เสมอ

Rococo

          สไตล์โรโกโกมีลักษณะที่นุ่มนวลและสว่างโดยมีที่มาจากฝรั่งเศส บางคนเรียกโรโกโกว่าเป็นสมัยหนึ่งที่อยู่ในช่วงปลายบาโรก แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นซ้อนกันในช่วงปลายยุคบาโรกจนถึงต้นยุคคลาสสิค ซึ่งสไตล์โรโกโกนั้นใช้กับการออกแบบภายในและศิลปะ และแน่นอนว่าไม่ใช้กับสถาปัตยกรรมเหมือนบาโรก อย่างไรก็ตามโรโกโกเป็นสไตล์ที่มีอายุไม่ยาวนาน เป็นช่วงเวลาสั้นๆในช่วงที่หลุยส์ที่ 14 ครองราชย์ ไม่เหมือนกับยุคบาโรกที่คลอบคลุมเวลาไปกว่าร้อยปี

          หากบาโรกแสดงถึงความมั่งคั่งและความเคร่งขรึม โรโกโกคงจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเบิกบาน มหัศจรรย์ แปลกประหลาด  ตกแต่งไหลลื่นด้วยความรู้สึก ใส่ความabstract และมีบ่อยครั้งที่จะมีการใช้การตกแต่งแบบตะวันออกมาใส่อย่างการตกแต่งแบบจีน(chinoiseries)เนื่องจากได้รับอิทธิพลมาจากการค้ากับตะวันออก พบเห็นได้ในลวดลายผืนผ้า งานไม้สลักซึ่งเป็นที่นิยมในเวลาต่อมา

          เดิมสไตล์นี้เกิดขึ้นจากการปฏิวัติดีไซน์บาโรกในปราสาทแวร์ซายที่ดูทื่อและเคร่งจนเกินไป บรรยากาศของโรโกโกโดยหลักแล้วจะคำนึงถึงความอบอุ่น สบายใจ มีความเป็นส่วนตัว ไม่มากพิธีต่างจากสไตล์บาโรกที่เป็นตัวแทนของพระเจ้าและโบสถ์โดยสิ้นเชิง

bottom of page